Tag Archives: shopping

ก้าวสู่การสร้างคอนเทนท์วิดีโอ 360 องศา

ก่อนเข้าเรื่อง ผมขอเกริ่นซะหน่อย ในฐานะที่ไม่ได้เขียนบล็อกมาซะนาน (เรียกว่าพิมพ์อาจจะถูกต้องกว่า) … หลังจากยุคแห่ง คอนเทนท์วิดีโอ เติบโตและถาโถมเป็นกระแสหลัก จนช่วงหนึ่ง คนพูดว่าทุกอย่างจะเป็นวิดีโอไปหมด (เผลอรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน) ตอนนั้นยังคิดไม่ออก ประจวบเหมาะกับ ผมย้ายที่ทำงานและได้จับผลัดจับผลูมาทำงานที่เกี่ยวกับคอนเทนท์วิดีโอ เลยได้ใกล้ชิดมันจนอินไปจริงๆ (และได้รู้จักมันมากขึ้นด้วย) มาวันนี้ กลับมาเขียนบล็อก เป็นตัวหนังสือและภาพ รู้สึกคิดถึง ไม่ได้เขียนมานาน … จะว่าไป การเขียนบล็อกยังไม่ตายจากไปไหน เพราะข้อความ จะเป็นเป็าหมายของการค้นหาจากกูเกิ้ล ตราบใดที่คนไทย ยังค้นหาด้วย กูเกิ้ล คอนเทนท์รูปแบบข้อความก็ยังไม่ตายง่ายๆ … นอกจากนั้น การเขียนบล็อกก็มีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ การที่ไม่ต้องเตรียมตัว เตรียมโพรดักชั่น การถ่ายทำอะไรมาก เพียงแค่ถ่ายภาพเก็บไว้ แล้วนำมาเรียบเรียง เขียนออกมาจากความทรงจำ ก็เขียนบล็อกได้แล้ว ต่างกับการทำ “วล็อก” หรือวิดีโอบล็อก ที่ต้องถ่ายทำ ณ ตอนนั้นเลย หรือมาตั้งกล้องนั่งเล่า แล้วยังต้องมาตัดต่ออีก เรียกว่า เทียบกันแล้ว เขียนบล็อกง่ายกว่ามาก แม้ไม่เตรียมอะไรมาก ก็เขียนได้ เหมือนรับประกันได้มากกว่าว่า จะทำคอนเทนท์ให้เกิดขึ้นได้ เมื่อเทียบกับการถ่ายวล็อก … เรื่องบางเรื่อง อาจจะไม่สะดวกในการถ่าย เช่น การซื้อของ ร้านค้า เขาไม่อยากให้ถ่ายวิดีโอ แต่การเขียนบล็อกไม่ถูกข้อจำกัดนี้ เพราะเราเขียนมาจากความทรงจำ

เกริ่นแค่นี้ เข้าเนื้อเรื่องดีกว่า ผมได้ทดลองทำคอนเทนท์วิดีโอแบบ 360 องศา มาน่าจะปีสองปีก่อน จากการได้รู้จักอุปกรณ์อย่าง Insta 360 Nano ที่สะดวกมากๆ ในตอนนั้น ได้ลองทำคอนเทนท์ไปสามสี่ตัว แล้วพบว่า คุณภาพของวิดีโอ 360 ที่ได้ยังน้อย ภาพแตกๆ จึงยุติการทำคอนเทนท์ 360 ลงเท่านั้น … ผ่านมาปีสองปี เทคโนโลยีกล้อง 360 พัฒนาไป สามสี่เจนฯ เทียบกับตอนที่ผมได้ลองทำเป็นครั้งแรก เมื่อผมได้ศึกษาข้อมูล การรีวิวเพิ่มเติม เห็นแล้วว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะกลับมาทำคอนเทนท์วิดีโอแบบ 360 อย่างที่เคยคิดไว้ … และคอนเทนท์แบบ 360 ที่ผมคิดว่าจะทำ และคิดว่าเหมาะมากที่จะทำ คือคอนเทนท์ท่องเที่ยว ผมมีความคิดมาตั้งแต่หลายปีก่อน ที่ผมเริ่มทำคอนเทนท์ท่องเที่ยว ว่าอยากจะทำในแบบ 360 เพื่อให้คนที่ดู ได้ประสบการณ์เต็มที่คล้ายกับไปด้วยตัวเอง เหมือนไปกับผม … คอนเทนท์แบบ 360 มีอะไรหลายอย่างที่ต่างกับการทำคอนเทนท์วิดีโอแบบเดิม ทั้งสถานการณ์ ผลลัพธ์ แนวคิด ความคาดหวัง ไว้ผมจะเล่าเรื่องนี้อีกครั้งนะครับ … คอนเทนท์ 360 สำหรับผม จะมาแทนที่การเล่าเรื่องแบบวล็อก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือ การพาแนะนำในประเทศไทย เป้าหมายของผมคือ Tokyo x Bangkok นั่นเอง สองเมืองที่ผมชอบ

หลังจากได้เป้าหมายดังกล่าวแล้ว ผมจะต้องจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็น ซึ่งแบบออกเป็นภาพและเสียง … ตัวหลักคือภาพ หมายถึง วิดีโอแบบ 360 จะใช้อุปกรณ์อะไรถ่าย ในตลาดมีสินค้ามากมาย ผมดูจากรีวิวหลายๆ ตัว กล้องที่ได้รับคำแนะนำมากที่สุดทั้งในด้านคุณภาพและราคา มีโปรฯ หลายคนที่แนะนำ หรือเข้าสู่การทำคอนเทนท์ 360 จากกล้องตัวนี้ นั่นคือ เจ้าเดิมที่ผมเคยใช้ แต่เป็น เจนฯ 4 ได้แล้วกระมัง นับจากรุ่นที่ผมเคยใช้ นั่นคือ Insta 360 One X

รีวิวที่ผมดู และชอบ

ดูรีวิวเหล่านี้แล้ว ตัดสอนใจได้เลยครับ 🙂 ผมเลือกโซลูชั่นของผมแล้ว … ตอนแรกลังเลอยู่หลายตัว อยากได้ Osmo Pocket มากๆ แล้วก็เอนเอียงไป GoPro Hero 7 Black ด้วย แต่สุดท้ายตัดสินใจมาที่ตัวเลือกที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ วันก่อนเดินดูที่ร้าน iLife ยังคิดอยู่ว่า คงไม่กลับมาเล่นกล้อง 360 แล้ว ไม่คิดเลยว่า สุดท้าย จะรู้สึกว่ามันใช่มากๆ และเลือกที่จะไปกับมันอีกครั้ง เพราะมันสามารถทดแทนในสิ่งที่ผมต้องการจากกล้องสองตัวข้างต้นนั้น ในแบบของผมได้ ตอบโจทย์ผมหลายๆ อย่าง และผมก็เลือกมันแล้ว

เมื่อมาใช้กล้องตัวนี้ การถ่ายอาจจะไม่อยู่ใกล้ๆ ตัว จะใช้ไม้เซลฟี่ในการถือเป็นหลัก เพราะกล้อง 360 ถ้าถือใกล้ตัว ก็จะเสียพื้นที่ในการมอง (จะหมุนกล้องมาจ้องหน้าผมก็คงไม่ใช่ ใช่ไหมครับ ^^” ) น่าจะต้องยกไว้ระดับสายตาจะดี และห่างจากตัวเรายิ่งมากยิ่งดี (แต่ห่างมากเกินก็เกะกะชาวบ้าน และอาจจะดูแปลก) ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือเสียงพูด จะอยู่ห่างจากกล้อง ดังนั้นการแก้ปัญหา คือการอัดเสียงแยก โดยการอัดเสียงลงมือถือ แล้วค่อยนำมาตัดต่อเข้ากับตัววิดีโอทีหลัง … เรื่องอุปกรณ์และ production ผมชอบรีวิวของสองช่องนี้มาก ช่องแรกคือ ilovetogo ชอบมานานแล้ว เป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมทำวิดีโอท่องเที่ยว เพราะตอนผมไปญี่ปุ่น เกาหลี ครั้งแรก ผมก็ศึกษาจากวิดีโอของ ilovetogo ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก และไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ก็ได้รู้จักกับทีมงานที่ผมชื่นชอบด้วย อีกช่องคือ asayhi ของไบรท์ (เรียกน้องไบรท์ตามคูเบญ) เขาเก่งมาก เป็นคนตรงๆ ตลก น่ารัก และเก่ง เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของพี่ฉิม ilovetogo ตอนแรกไม่ค่อยรู้จัก แต่พอได้ดูคอนเทนท์ของเขา ยิ่งดูยิ่งชอบ จนตอนนี้น่าจะเป็นช่องที่รีวิวและสอนเกี่ยวกับการถ่ายทำ โพรดักชั่น ที่ผมชอบที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ขายของ เน้นให้ความรู้ แน่น ครบ ละเอียด จากประสบการณ์จริง ไม่ขายของ ซึ่งหาได้ยากมากในยุคนี้ที่ การตลาดอินฟลูเอนเซอร์เฟื่องฟู … การจากดูรีวิวของช่อง asayhi และ ilovetogo และได้คำแนะนำจากไบรท์ด้วย (จากการถามในช่อง เขาตอบทุกเม้นท์ เร็วด้วย ใส่ใจคนดูมากๆ จริงใจ) จึงเลือกใช้ ไมค์หนีบปกเสื้อของ ซาราโมนิค LMX1+ ใช้กับมือถือ

เดินหาทั่ว ฟอร์จูน ตั้งแต่ชั้น 4, 3, 2 เดินจนทั่วสำรวจก่อน ไม่เจอ Saramonic LMX1+ ที่ต้องการ จนมาถึงร้าน Pro Plugin ที่ชั้น 3 ที่ร้านขายอุปกรณ์เสียงขนาดใหญ่ พนักงานอัธยาศัยดี ให้บริการ ผมแนะนำเลยใครหาเครื่องเสียง นักแต่งเพลงหาอุปกรณ์ มาที่ร้านนี้นะครับ พนักงานไปหา LMX1+ ให้ผมแต่ไม่มี เลยได้เจ้านี่มาแทน ผมคิดว่า สงสัยคงจะไม่มีของ เพราะใครๆ แนะนำ เลยขายดี ไม่เห็นร้านไหนวางขายเลย เอาตัวนี้ก็ได้

เจ้า LavMic ตัวนี้ แพงกว่า LMX1+ ที่ตั้งใจหา ราคาประมาณ 3,600.- แต่ก็มีข้อดีคือ รองรับ และให้สายมาถึงสามสาย ทั้งต่อกับโทรศัพท์ (หัวกลมๆ TRRS)​ ต่อกับกล้อง (หัวกลมๆ TRS) ต่อกับโกโปร สามอย่างนี้ใช้สายคนละแบบนะครับ มือถือกับกล้อง ใช้สายไม่เหมือนกัน … เจ้า LMX1+ นั้นเป็นสำหรับต่อมือถือ ถ้าจะต่อกล้องต้องซื้อขั้วต่อ Rode SC3 แต่พอผมมาได้เจ้า LavMic ตัวนี้ก็ไม่ต้องซื้อแล้ว เพราะมันให้มาหมดเลย ติดอยู่อีกนิดตรงที่ มือถือผมไม่มีรูกลมๆ เสียบแล้ว ต้องแปลงเป็นหัวไลท์นิ่ง คือว่า หางหนู ที่ใช้กับสายหูฟังไอโฟน หวังว่าจะใช้กันได้ … ข้อดีของมันก็มีที่มันแพง เพราะมันปรับโหมด โมโน สเตอริโอ ได้ และมีช่องเสียบหูฟังเช็คเสียงได้ด้วย มันจึงต้องใช้แบต! กลายเป็นข้อเสียข้อกังวลอันนึง กลัวว่าจะเผลอใช้โดยไม่ทันดูแบตแล้วพลาดในการใช้งานไหม โชคดี แบตใช้จากถ่านไฟฉายขนาดเล็ก AAA หาซื้อง่าย ไม่ใช่แบนๆ กลมๆ (ไม่ชอบถ่านแบบนั้นเลย) ที่ตัวกล่องมีสัญญาณไฟ เขาว่า ดูเอาน่าจะเห็นว่าแบตหมดหรือเปล่า … เอาเป็นว่า ซื้อมาแล้ว

หลังจากเดินออกมาจากร้าน ดีใจได้ของ เดินต่อไปอีกหน่อย เจอร้านในซอกหลืบ มองไม่ค่อยเห็น ชื่อ Jaben ที่ชั้นเดียวกัน … เดินเข้าไป สตันไปห้าวิ เพราะร้านนี้มีตู้สินค้าของ Saramonic มีของสารพัดรุ่น รวมทั้ง LMX1+ ที่เราตามหาด้วย! ซื้อมาไม่ถึงนาที เจอของที่เราหาไม่เจอ! ให้มันได้อย่างนี้สิ! สรุปคือแนะนำว่า ใครหาของ Saramonic แนะนำให้มาดูร้าน Jaben ที่ชั้น 3 นะครับ คนขายก็น่ารัก พูดจาดีด้วย ร้านอยู่ในแทบสุด หายาก แต่กลับมีของดี … และหลังจากนั้น ผมก็ยังไปเจอร้านที่วางขาย Saramonic เยอะๆ คือร้าน ec mall ที่ชั้น 2 ด้วยอีกร้านหนึ่งที่แนะนำ สำหรับใครที่ตามหา Saramonic นะครับ

หลังจากเจ็บปวดกับไมค์ เดินมาเป็นสิบๆ ร้าน ไม่เจอร้านไหนขาย Insta 360 One X ที่ตามหาเลย เจอร้านนึงวางขาย แบตสำรองกับแท่นชาร์จแบต แต่ไม่มีตัวกล้อง กำลังคิดว่า สงสัยต้องไปซื้อที่ iLife ซะแล้ว แต่ประเด็นมันไม่ใช่ตัวกล้อง แต่เป็น accessories ที่ต้องการต่างหาก ถึงมาฟอร์จูน คิดว่าที่นี่ น่าจะมีของพวกนี้มากที่สุดแล้ว

ระหว่างทาง เดินผ่านร้าน Banana ที่ชั้น 3 เป็นร้านของคอมเซเว่น (ที่นี่มี บานาน่าหลายสาขามาก) มีขาย Micro SD card ที่ต้องใช้กับเจ้า Insta 360 One X ที่ราคาดีมาก 128GB ความเร็วสูง 160/90 U3 A2 V30 (รหัสอะไรมากมาย @_@ ) สำหรับอัดวิดีโอ 4K ราคาแค่ 950.- เลยจัดมาสองตัว เห็นว่าลดมาจาก พันสองกว่าๆ และไม่ได้ลดตลอดด้วย ยังไงก็ต้องใช้ จัดมาก่อนเลย (อันนี้ดูจากรีวิวมาแล้วว่าตัวนี้ดี แนะนำ)

จนเดินไปถึงร้าน ec mall ที่ชั้นสอง เขามีเว็บด้วย ดีใจมากที่ได้พบของที่ตามหาในที่สุด คือ อุปกรณ์เสริมของ Insta 360 One X เยอะมาก แต่มีแค่ชุดเดียว ก็เลยต้องเกิดการเหมา ^^

โชคดีที่ของครบ ได้ตัวกล้อง ที่แถมไม้เซลฟี่มา (ขนาดปกติ) และไม้เซลฟี่สามเมตรชื่อดัง ไม้เซลฟี่แบบบุลเล็ท (เหวี่ยงหมุนๆ) แท่นชาร์จแบต และแบตเสริมหนึ่งก้อน ราคารวมๆ ประมาณ 20,000.- หน่อยๆ ร้านนี้ดี สามารถผ่อน 0% ได้ด้วย แนะนำนะครับ ยังมีของที่ผมต้องการ แต่วันนี้ไม่มีในร้าน ร้านถึงขนาดจะให้ เมสเสนเจอร์ วิ่งเอามาจากสาขาอื่นให้ผม แต่ว่าพนักงานเขาไม่ว่างเลย แต่หลังจากเห็นความพยายามในการบริการของเขา ผมเลยตัดสินใจสั่งของเหล่านั้น แล้วค่อยมารับวันอื่น สิ่งที่ผมต้องการเพิ่มก็คือ เคสกันน้ำ ชุดสำหรับวิ่ง (สายคาดติดกล้องกับตัว และกับหัว เอาไว้ใช้ตอนเล่นสโนวบอร์ด หรือสกี ถ่ายวิดีโอแนวแอคชั่นแคม) และแบตสำรองเพิ่ม ซึ่งพนักงานเช็คให้ว่า สาขาอื่นๆ ทั้งหมดตอนนี้เหลือว่างอีกแค่ สองก้อน ผมก็เลยขอทั้งหมดเลย … วันสองวัน ผมจะมารับ และค่อยชำระเงิน

ผมลองเดินข้ามไป เซ็นทรัลพระรามเก้า ที่ร้าน iLife ที่เห็นว่ามีขายเครื่อง Insta 360 One X ลองถามดูว่ามีแบตสำรองไหม ปรากฏว่ามี! เซอร์ไพรส์มาก เลยได้จากที่นี่มาอีก 2 ก้อน!

เดินทางออกมาจากฟอร์จูน ตั้งใจว่าขากลับทางผ่าน จะผ่าน เซ็นทรัลอีสวิลล์ แถวบ้านที่มาบ่อยๆ ลองมาเช็ค iLife ที่นี่ดูสักหน่อย เผื่อจะฟลุ้ค มีแบตสำรองอีก … ในตก รถติดมาก หาที่จอดรถอย่างยาก แต่ในที่สุดก็มีจนได้ ถือว่าไม่เสียทีที่อุตส่าห์เสียเวลาวนหาที่จอด … ได้มากอีก 1 ก้อนจากที่นี่ (เหมือนไล่ตามเก็บ ของวิเศษ ทำเควสอะไรสักอย่าง 🙂 )

ข้อดีอย่างหนึ่งของ Insta 360 One X ที่ผมชอบคือ มันสามารถเปลี่ยนแบตได้เลย (ในขณะที่ Osmo Pocket เปลี่ยนแบตไม่ได้ อุปกรณ์พิเศษพวกนี้ มันดูดี มันเก่ง แต่ปัญหาใช้งานได้ไม่นานเป็นปัญหาใหญ่ ถ้าเปลี่ยนแบตไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากเหมือนกัน สำหรับผมนะครับ) ในการทำงานจริง การเปลี่ยนแบตได้นี่ดีมากๆ เพราะทำงานต่อได้ทันที ไม่ต้องรอชาร์จ ไม่มีสายระโยงระยาง สะดวก แต่เราต้องพกแบตเสริมพวกนี้ และต้องชาร์จตอนเข้าที่พัก ต้องแบกที่ชาร์จไปด้วย … แบตเขาเคลมว่าถ่ายงานได้ 1 ชม. แต่จากข้อมูลที่พบ ถ้าถ่ายความละเอียด 5.7K 30fps น่าจะถ่ายได้แค่ 30 นาที ผมจึงคิดไว้แล้ว ว่าต้องซื้อแบตสำรอง ให้มากที่สุดให้เพียงพอต่อการใช้่งานในการทำคอนเทนท์ของผม เดี๋ยวต้องมาลองดูว่า ใช้งานจริงมันจะเป็นอย่างไร พอไหม … สมัยก่อนที่ผมใช้ Insta 360 Nano ก็มีปัญหานี้ ถ่ายได้ไม่นาน เปลี่ยนแบตไม่ได้ ผมไม่ใช่สาย ใช้ไปชาร์จไปซะด้วยสิ ครั้งนี้ จึงถูกใจกับ Insta 360 One X มากนั่นเอง ลงตัว

ตามแผน ตอนนี้ผมก็น่าจะมีแบตทั้งหมด 6 ก้อน ถ้าใช้ได้ก้อนละ 30 นาที ก็แสดงว่าจะถ่ายทำได้ 3 ชม.​สำหรับ คอนเทนท์ 360 เดี๋ยวขอทดสอบก่อนครับ 😉

อุปกรณ์พร้อม อุปกรณ์เสริมพร้อม (รอบางอย่าง) แบตพร้อม เมมพร้อม เปลี่ยนได้ ก็น่าจะมีความพร้อมในการนำไปใช้งานจริงๆ จังๆ ของผมแล้ว ต่อไปก็เป็นการฝึกใช้อุปกรณ์ให้คล่อง และจะได้ทราบปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อน ออกงานจริง

ก็ขอจบบล็อกบันทึก และแชร์เกี่ยวกับการเลือกอุปกรณ์ของผม และที่ซื้อหา เผื่อจะเป็นประโยชน์นะครับ.

เจ เจริญ.
17 มิ.ย. 2019.

Why I not buy online?

I have a discussion with my friends that generate thought on why they not buy online which make me excite and can’t sleep without writing it due to I afraid to forget it in tomorrow morning.

Trial and Trust are 2 keys in my findings. Discount on online shopping, if not high enough like 50%-70%, can’t make people to risk buying online for the first time. But if they have tried it once and “pass all the worries”, it will make they buy online again if the discount is worth the effort, this time discount no need to high like the first time. Continue reading Why I not buy online?