COVID19 มีพลังรุนแรงมาก ส่งผลกระทบต่อ โลก ชีวิตมนุษย์ กว้าง แพร่กระจาย … ถ้าโควิดเป็นหยิน ฝั่ง หยาง มีมาก่อนนี้นานแล้ว ขั้วตรงข้ามของโควิดคือ Digital มีพลังรุนแรงมาก ส่งผลกระทบต่อ โลก ชีวิตมนุษย์ เช่นกัน มานานหลายสิบปีแล้ว … การมาของ โควิด ทำให้ขั้วตรงข้าม ที่สะสมพลังมานาน เหมือนการเตรียมการรับมือของมนุษยชาติ ได้ถูกนำออกมาใช้งาน เพื่อต่อสู้กับ โควิด
โควิด มีพลังสูง เมื่อมนุษย์อยู่ใกล้ชิดกัน … Digital จึงเป็นยา แก้คืนได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ สมัยก่อน เรามีคำว่า Digital divide ที่หมายถึง ปัญหาการที่คน เกิดความเลื่อมล้ำทางการเข้าถึงของดิจิทัล จากฐานะ และสังคม แต่วันนี้ digital ไม่ divide แบบนั้นแล้ว เพราะ ดิจดทัล ถูก เข้าถึงง่าย รัฐเองก็สนับสนุนมาก (มีเน็ทฟรี ลกค่าไฟ อะไรต่างๆ มาช่วย) digital penetration จะเพิ่มขึ้นอย่างเร็วทั่วโลก ทุกประเทศ … digital divide จะมีคำใหม่ ความหมายใหม่ เป็น Digital distance คือ Digital มาช่วยเรื่อง Social distancing ที่กลายเป็น “ความห่าง” ที่เป็นของดี ไม่ใช่ ความห่าง ที่เป็น ของร้าย เหมือนความเชื่อก่อนนี้ ที่เรายังมี “normal” ว่า คนเรา การได้พบเจอกันจริงๆ ในชีวิตจริงนั้น “ดี” กว่า อบอุ่นกว่า จริงใจกว่า “จริง” กว่า การพบเจอกันแบบ ดิจิทัล … สมัยก่อนที่ normal คือ ดิจิทัลเดทอาจจะไม่ดี ดิจิทัลเฟรนด์ อาจจะดูไม่จริง วันนี้ normal ต้องเปลี่ยน … เมื่อ การใกล้ชิด กลายเป็นปัจจัย ที่ โควิด ใช้ทำลายมนุษย์ Digital เป็นเหมือนยาแก้ทาง ของแรง ที่ทำให้ มนุษย์ อยู่ห่างกัน แค่ไหน ก็สามารถทำงาน ค้าขาย สัมพันธ์ กันได้
Digital เชื่อมโลกเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการค้าขายแบบไร้พรมแดน Globalization แบบ 24×7 ลดค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่าง เกิดการเข้าถึงการเรียนรู้ แหล่งข้อมูลของโลก อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้คนได้พัฒนาชีวิต ได้ง่ายกว่า ถูกกว่า เพิ่มโอกาสมากกว่า เปิดโอกาสให้ “you” คนตัวเล็กๆ สร้างเป้นเจ้าของ สถานีโทรทัศน์ออนไลน์ ของตัวเอง แบบลงทุนต่ำ จากช่องวิดีโอ จนถึงการถ่ายทอดสด ทำให้ “you” ได้ขึ้นปก Times ทุกๆ คน กลายเป็นผู้มีอิทธิพล เพราะมี digital ที่ disrupt big business / big media … เกิดขึ้นมานานแล้ว 20 กว่าปี
วันนี้ เราได้รู้ว่า การเติบโต พัฒนาของ Digital นั้น อาจมีมาเพื่อ วันนี้ ถ้าเทียบ “วันนี้” เป็นวันโลกแตก วันพิพากษา อาจไม่เกินไป Digital ก็เป็นพลังแห่งแสงสว่างหนึ่ง ที่เข้ามาเปิดให้มนุษยชาติ เห็นโอกาส ในการเดินหน้าต่อไปได้./เจเจริญ 23 เม.ย. 2020