แรงผลักดัน ให้เปลี่ยนแปลง

ในปัจจุบัน เป็นช่วงสถานการณ์ โรคระบาด โควิด19 กำลังแพร่ไปทั่วโลก มีประเทศที่ได้รับผลกระทบ มากบ้าง น้อยบ้าง ทั้งฝั่งฝรั่ง และเอเชีย ส่วนไทยเอง น่าจะยังเป็นประเทศที่มีผลกระทบไม่มากนัก มีจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอยู่ แต่ยังไม่ค่อยถึงกับมีผู้เสียชีวิต แม้ผู้เสียชีวิตโดยรวมในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กี่% จะดูไม่มาก แต่ชีวิตของทุกๆ คน ล้วนมีคุณค่าความสำคัญ เป็นกำลังใจให้ผู้สูญเสียนะครับ และเสียใจด้วยจริงๆ ได้แต่หวังว่า ปัญหานี้จะจบลง และอย่ามีผู้สูญเสียเพิ่มขึ้นอีกเลย

มองในแง่ของการตลาด นี่เป็นปัจจัยที่โดยปกติ เรามักไม่ให้ความสำคัญนัก คือปัจจัยภายนอก ตอนที่เราวิเคราะห์ ผมจะสอนน้องๆ ผมว่า PEEST ที่มี Political Economic Environment Social และ Technology

ปัญหานี้ น่าจะรวมอยู่ในตัว E Environment ที่เราหมายถึง ภัยจากธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ เชื้อโรคก็ไม่ต่างกันนัก

สิ่งที่เกิดขึ้น ส่งผล ทั้งลบ และบวก ต่อหลายๆ สิ่งต่างกันไป ทำให้คนสูญเสีย เป็นผลลบแน่นอน และความเจ็บป่วย การเสียชีวิต ถือเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ขั้นสูงสุด คนเราต้องการ อยู่รอด เป็นเรื่องแรก จึงทำให้ระดับความต้องการในด้านอื่นๆ ตอนนี้ ด้อยลงไป เช่น ชื่อเสียง อำนาจ เงินทอง ถ้าไม่มีชีวิตแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรนัก

และมันส่งผลบวกต่อหลายสิ่งด้วย เช่น ดิจิทัล เพราะเชื้อโรค ทำให้คนเราจากเดิม ที่ชอบการสังคม สนับสนุนการปฏิสัมพันธ์กันจริงๆ มากกว่าใช้ออนไลน์ หรือดิจิทัล ไม่สนับสนุนให้คนเล่นเกมมากจนเกินไป แต่ตอนนี้ กลายเป็นว่า เราต้อง Social distancing มีระยะห่างระหว่างกัน อย่าอยู่ใกล้กัน เพื่อชะลอการแพร่เชื้อออกไป จากคนที่มีเชื้ออยู่ แต่มีภูมิหรือไม่ป่วย ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นผู้แพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ที่น่ากลัวที่สุด คือเราๆ นี่เอง แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่มั่นใจว่า เราเป็นหนึ่งใน 80% ที่มีเชื้ออยู่แต่ไม่ป่วยหรือเปล่า ด้วยพื้นฐานที่ร่างกายเราค่อนข้างจะแข็งแรง ไม่มีโรคภัยอะไรนัก

กลับมาพูดเรื่องดิจิทัลกันต่อสักหน่อย ประเทศไทยเรา ชอบซื้อของต้องจับต้อง มองเห็น ชอบช้อปปิ้ง และมีความสะดวก ร้านค้ามากมาย อีคอมเมิร์ซจึงไม่เกิด ต้องลดมากๆ หรือส่งฟรี จึงจะซื้อ ต้องเปลี่ยนเป็นมาช้อปปิ้งออนไลน์กัน … เราชอบไปดูหนังในโรงหนัง ที่มันให้ความสมจริง ต้องเปลี่ยนมาดูผ่าน ดิจิทัล หรือ OTT กล่องต่างๆ เช่น เน็ตฟลิกซ์ ทรูไอดี (ขอขายเล็กน้อย) … เราชอบใช้เงินสด ต้องเปลี่ยนมาใช้ e wallet เช่น True Money Wallet ในการจ่ายเงิน หรือใช้แอพสตาร์บัคส์ ในการจ่ายเงิน เพราะว่า ธนบัตร สามารถแพร่เชื้อได้ (และการทำความสะอาดธนบัตรก็ไม่สะดวกจริงๆ) … คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น ไม่มีอะไรทำเบื่อ ก็ดูหนัง เล่นเกม อ่านข่าวทางเว็บ เล่นเน็ท บริการทางดิจิทัลจึงมีผู้ใช้มากขึ้น

การตลาดเดิม มีเครื่องมือการจัดอีเวนท์ ที่แม้จะเก่า แต่ก็มีความสำคัญ เพราะคนเราชอบอีเวนท์ งานแสดง คอนเสิร์ท เคาท์ดาวน์ ตอนนี้จัดไม่ได้ ต้องประยุกต์มาจัดอีเวนท์ทางดิจิทัล เช่นการเปิดตัวมือถือ แม้แต่ค่ายแอปเปิ้ล ก็ต้องหยุดงานอีเวนท์ไป

ผมเองชอบรถไฟใต้ดินมาก ในญี่ปุ่น เกาหลี ที่เจริญ มันสะดวก ไปที่ไหนก็ได้ไม่ต้องขับรถ … ปัญหานี้ ก็ทำให้เห็นว่า รถไฟใต้ดินกลายเป็นสิ่งที่อันตรายไป การขับรถส่วนตัวกลับมาปลอดภัยกว่า เพราะเราไม่ต้องเจอใคร

ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งผลให้คน ใส่ใจ เรื่องสุขอนามัย ของตัวเอง และผู้อื่น ในการเดินทางขนส่งสาธารณะ แล้วก็ยัง “เร่ง” ขับดันให้ประเทศ และสังคม เรา ปรับตัว ปรับพฤติกรรมไปสู่โลกดิจิทัล เร็วขึ้น มากขึ้น กว่าเดิมมาก แบบก้าวกระโดด หลังจากปัญหานี้ผ่านพ้นไป ผมเชื่อว่า ประเทศเราจะพัฒนาขึ้นในด้านนี้ และ ดิจิทัล ก็จะส่งผลสูงมากขึ้นอีก กับทุกธุรกิจ และชีวิตคน

ถ้าในอดีต การเปลี่ยนแปลงสำคัญ ที่ทำให้ ดิจิทัล เติบโต มี (1) การที่อินเทอร์เน็ตมือถือราคาถูกลง 3G 4G ราคาถูกลง และ (2) การที่โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มีราคาถูกลงๆ และเข้าถึงผู้คนได้ง่าย มากขึ้น สองสิ่งนี้ทำให้ ดิจิทัล ลงสู่มือถือ และเข้าถึงคนจำนวนมาก คนไม่ได้พึ่งพา คอมพิวเตอร์ในการเข้าเน็ทอีกต่อไป … ปัจจัย (3) การแพร่ระบาดของ โควิด19 ในปี 2019-2020 ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่เร่งให้คนต้อง กระโดดเข้าสู่ชีวิตแบบดิจิทัล เร็วขึ้น ที่เราจะต้องกลับมาพูดถึง ในอนาคต ครับ

เจ เจริญ.​ 22 มี.ค.​ 2020

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *