ผมเขียนอะไร? What I write?

แรกเริ่มเดิมที ผมเขียนเล่าประสบการณ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้พบเห็นในชีวิต อาจค่อนข้างสะเปะสะปะ คล้ายๆ ไดอะรี่ แต่หลังจากขีดเขียนผ่านช่องทางบล็อกนี้ ผ่านเฟสบุ้คส่วนตัว ผ่านอินสตาแกรม เวลาที่ผ่านไป สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ทำให้ผมพบว่า ผมอยากเขียนเรื่องของอะไรบ้าง และเพราะอะไร เป็นที่มาของการเขียนบทความนี้ ว่า ผมเขียนอะไร? เพราะอะไร?

คนเราจะมีชีวิตอยู่ ต้องกินต้องใช้ ต้องทำงานหาเงิน ซึ่งเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผมสนใจและมีประสบการณ์กับมันพอสมควร เพราะเป็นงานที่หาเลี้ยงชีพ และเอาไปสอนเด็กๆ นั่นคือเรื่อง Marketing และ Online (stuffs) ก็เลยเป็นสองเรื่องที่พอจะเขียนได้ มีอะไรเล่า … หาเงินมาได้แล้วก็ต้องใช้จ่าย เรื่องการบริหารการใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญมาก จะเอาไปใช้บริโภค ลงทุน หรือผลาญ ผมได้แรงบันดาลใจแนวคิดเรื่องพวกนี้จากหนังสือของ คุณคะเมะดะ จุนอิชิโร เป็นแนวคิดที่อยากจะเอามาถ่ายทอดต่อไป เรื่องของการใช้เครื่องมือทางการเงิน ที่เราๆ คุ้นๆ กัน อย่าง บัญชีออมทรัพย์ บัตรเครดิต ผมก็ได้มีโอกาสใกล้ชิด และเข้าใจมัน จากการทำงานเป็นนายธนาคารมาพักหนึ่ง ก็พอรู้กับดัก และวิธีการใช้มันอย่างถูกวิธี รวมไปถึง ในเรื่องการลงทุน ผมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่เป็นผู้ก่อตั้ง Jitta ให้ผมศึกษาแนวคิดการลงทุนของ Warren Buffet … เรื่องเงินๆ ทองๆ ทั้งหลายเหล่านี้ คือสิ่งที่ผมเอามาเล่าในหัวข้อ Personal Finance นั่นเองครับ

เมื่อมีเงิน และใช้เงินได้ดีแล้ว เราก็คงไม่แร้นแค้นขัดสน มีกิน มีอยู่ แต่ก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดี เพราะการกินอยู่ไปแบบไม่เข้าใจร่างกาย ได้แต่กิน แต่ไม่ออกกำลังกาย (ใครๆ ก็เป็น ผมก็เป็น) ก็ทำให้เราเป็นโรคอ้วน ซึ่งบั่นทอนสุขภาพ และทำให้รูปร่างไม่ดี อยากให้หนุ่มหรือสาวติดใจ สำหรับหนุ่มๆ เดี๋ยวนี้ต้องหุ่นดีมีซิกส์แพ็ค คนที่มีแต่วันแพ็คอย่างเราก็ฝันจะมีหุ่นดีกับเค้าบ้าง ทำให้ผมสนใจและคิดจะเขียนเรื่อง Health (& Fitness) มานาน มีโอกาสได้เรียนรู้จากเพื่อนเทรนเนอร์สุดหล่อ BirdySeven และก็ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือของโค้ชเป้ง (สาธิก ธนะศักดิ์) ได้ออกกำลังกาย และปรับพฤติกรรมการกิน ทำให้มีเรื่องให้เล่าแล้วเหมือนกัน

เมื่อหุ่นดีแล้ว ใครๆ ก็อยากหล่ออยากสวย หน้าตาดี เพื่อให้มีคนชอบ มีโอกาสดีดีทางการงาน มีความมั่นใจ ต้องเริ่มดูแลจากเรื่องผิว และสำหรับสาวๆ เรื่องของการแต่งหน้า ก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ผมจำคำที่ป้าจีนแห่งเว็บ Jeban เขียนในหนังสือว่า Make up is magic การแต่งหน้า เป็นดั่งเวทย์มนต์ ทำให้ผู้หญิงสวยขึ้นทันตา นอกจากผมมีความสนใจในเรื่องพวกนี้อยู่เดิมแล้ว การมีโอกาสได้ทำงานกับแบรนด์เครื่องสำอางค์ระดับโลกหลายๆ แบรนด์ ก็ทำให้ได้เรียนรู้อีกหลายอย่าง รวมทั้งการไปเรียนหลักสูตร Make up artist ของโรงเรียน Make up arts and technique school ก็ทำให้ได้ความรู้ ได้ฝึกฝน ได้เข้าใจ เรื่องการแต่งหน้าของผู้หญิง ทำให้ผมมีอะไรจะเล่า ทั้งเรื่อง Skin care และ Make up

เรื่องของความสวยความงาม นอกจาก หุ่น และ หน้า แล้ว เรื่องของการแต่งกายก็เป็นอีกเรื่องที่มีสีสันไม่แพ้กัน การได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ในธุรกิจร้านค้าแฟชั่นออนไลน์ระดับโลกแห่งหนึ่ง เป็นตัวจุดประกายให้ผมสนใจเรื่องธุรกิจวงการแฟชั่น เป็นที่มาของกรเขียนเรื่องในหัวข้อ Fashion

เรื่องความสวยความงามและแฟชั่น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้หญิง แต่นั่นก็เป็นความขัดใจอย่างหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับผู้ชายในเรื่องแบบนี้เท่าไร ผมจึงสนใจที่จะพูดถึงเรื่องความสวยความงามและแฟชั่น ในแบบของผู้ชาย เพราะมันต่าง กับเรื่องสำหรับผู้หญิง และเรื่องสำหรับผู้ชายๆ โดยเฉพาะ ผมจะรวมไว้ใต้หัวข้อ Grooming Guy 

สุดท้าย เมื่อเรามีสุขภาพดี รูปร่างหน้าตาดี มีเงินเหลือพอใช้ ก็คงช่วยให้ได้พบคนดีดี และเกิดความรัก เหมือนอย่างในละคร ในหนัง ในนิยาย เค้าเขียนกัน เล่ากันให้เราดู ให้เราฟังมาตลอด ผมเชื่อว่าละคร ทำมาจากเรื่องจริง เฉพาะเรื่องดราม่า และปัญหาที่เกิดขึ้น และผมไม่เชื่อเรื่อง Happy ending ของละครในตอนจบ เพราะชีวิต ไม่ได้จบลงแค่นั้นอย่างละคร เรื่องความรัก มันมีทั้งสุขและทุกข์ คนที่มีทุกข์จากความรัก หรือผิดหวังในรัก ก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบมากกับทั้ง สุขภาพ การงาน เกิดความเครียด … ผมได้พบว่าการศึกษาเรื่องของหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจ ทุกข์น้อยลง สุขภาพจิตดีขึ้น … ผมมีจังหวัดที่ผมชอบไปเยือน ไปพักผ่อน คือจังหวัดเชียงใหม่ ที่นอกจากมีสีสัน ความน่าสนใจในตัวเองแล้ว ยังเป็นจังหวัดที่มีวัดมาก เพื่อนสนิทรุ่นพี่ผมคนหนึ่ง มักจะชวนผมขึ้นไปเชียงใหม่ เพื่อไปสักการะวัดต่างๆ เป็นประจำ แม้จุดหมายจะเป็นเชียงใหม่ แต่วัดที่ผมชอบไปบ่อยๆ คือวัดร่องขุ่น ของอาจารย์เฉลิมชัย ที่จังหวัดเขียงรายติดๆ กัน ที่นอกจากจะสวยงาม แล้วการอุทิศตัวของอาจารย์ฯ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเป็นอย่างมาก … การได้ไปวัด ไปทำบุญ ไปเยือน กับการได้ศึกษาธรรมะ ก็ทำให้จิตใจสงบขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการเล่าเรื่องในหัวข้อ Dharma ของผมครับ

ผมมองว่าแต่ละเรื่องที่ผมเขียน มันเกี่ยวข้องกัน มีความสำคัญ มีที่มา และรวมกันเป็นตัวผม การอ่านงานเขียนของผมก็จะเข้าใจแนวคิดและรู้จักผมเป็นอย่างมาก แต่ที่สำคัญ ผมหวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากมันบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่ในเรื่องใดก็ตาม 🙂

ขอบคุณและยินดีต้อนรับสู่ jarern.com ครับ 😉

นาย เจ เจริญ
#JayJarern

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *