วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวเว็บ Pantip.com โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ และเป็นการฉลองครบรอบ 16 ปี ของ Pantip.com อีกด้วย (ครบรอบวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา) นะครับ ในวันนี้ทีมงานได้เล่าที่มาความเป็นไป กว่าจะมาเป็น Pantip.com รวมทั้งเผย 16 ฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และเชิญชวนให้ทดลองใช้เว็บตัวใหม่นี้อย่างเป็นทางการที่ beta.pantip.com ซึ่งจะเปิดให้ทดลองใช้ถึงแค่ 31 ต.ค. นี้เท่านั้น และจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้ใช้ที่ส่งเข้าไปทั้งหมด และจะกลับมาเปิดเว็บ Pantip.com ให้เป็นโฉมใหม่จริงๆ อีกครั้งในวันที่ 1 ม.ค. 2556 รับปีใหม่กันเลยทีเดียว อ้อ… อย่าพลาดเข้าไปโพสกระทู้ในเว็บ beta.pantip.com ก่อนวันที่ 31 ต.ค. นี้นะครับ เพราะจะได้ “สติกเกอร์โคลัมบัส” แสดงในโปรไฟล์ไปตลอด เป็นที่ระลึกว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ร่วมทดสอบการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 16 ปี นี้ … สติกเกอร์นี้จะแจกให้เฉพาะผู้ที่ร่วมทดลองตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง 31 ต.ค. นี้เท่านั้น ย้ำ! พลาดแล้ว อดเลย ไม่มีโอกาสได้สติกเกอร์โคลัมบัสนี้อีกแล้วนะครับ
ภาพหน้าจอทักทาย ก่อนเข้าสู่ พันธิป โฉมใหม่ที่ beta.pantip.com
ทำไมเว็บ Pantip.com จึงเป็นเว็บที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย
ประการแรก เว็บ Pantip.com เป็นเว็บที่มีจุดกำเนิดมาจากความต้องการให้คนได้เผยแพร่ความรู้ให้แก่กันได้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ของทุกคนที่จะได้จากความรู้นั้น และยังคงรักษาอุดมการณ์นี้ไว้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเว็บจำนวนน้อย ที่เราจะได้ยินจากปากของผู้ก่อตั้ง/เจ้าของ อย่างพี่วันฉัตร ผดุงรัตน์ (@wanchat) ว่า “ไม่ใช่ทีมงานพันธิปที่ทำให้เกิดเว็บพันธิปอย่างนี้ได้ หากแต่เป็นเพราะผู้ใช้ทุกคนที่ร่วมสร้างพันธิปขึ้นมา และทุกคนเป็นเจ้าของเว็บพันธิป” โดยการเปรียบตนเองและทีมงานเป็นเหมือนเพียง “คนสวน” ที่คอยดูแล “ต้นไม้” อย่างเว็บพันธิปเท่านั้น … แนวความคิดแบบนี้ เจตนารมณย์แบบนี้ เป็นที่น่ายกย่องมาก ซึ่งหากเราได้ติดตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 16 ปีของ Pantip.com และบทบาท จุดยืน ที่ปรากฏสู่สังคม ก็จะเห็นได้ไม่ยากว่า เป็นเว็บหนึ่งในไม่กี่เว็บของไทย ที่มีอุดมการณ์เพื่อประโยชน์ของสังคมเช่นนี้ …
ประการที่สอง น่าภาคภูมิใจ ในเรื่องความสามารถ และความอุตสาหะ ของทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง การเจริญเติบโตของเว็บ Pantip.com ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา การที่เว็บไซต์เว็บหนึ่ง ที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาล และมีผู้ใช้จำนวนมหาศาล จะดูแล รักษา ทั้งข้อมูลและผู้ใช้ไว้ได้อย่างมั่นคงและยาวนานอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังเห็นได้จากเว็บไซต์หลายเว็บที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ก็จะมีการปรับปรุงเว็บ ที่บางครั้งทำให้ข้อมูลสูญหาย หรือผู้ใช้งานต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ มีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ
… ในเรื่องของการพัฒนา ทีมงานเบื้องหลังการปรับปรุงเว็บ Pantip.com ให้เป็นโฉมใหม่นั้น ล้วนแต่ได้คนฝีมือดีเข้ามาช่วย ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย หลังจากที่ได้ทดลองใช้แล้ว ก็พบว่าประสิทธิภาพของการใช้งานจริงที่หน้าเว็บก็ลื่นไหล และไม่ทำให้ผิดหวัง เฉกเช่นที่เรารู้สึกได้กับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ของเมืองนอกอย่าง Google หรือ Facebook อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับ การพัฒนา ปรับปรุง User Interface เพื่อแก้ไขปัญหา และทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากขึ้น ที่เมื่อดูจาก 16 ฟีเจอร์ที่เปิดตัวในวันนี้แล้ว ล้วนแต่น่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นว่า ทีมงานนั้น เข้าใจในพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้อย่างแท้จริง และคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบกับทุกฟีเจอร์ที่สร้างขึ้นหรือแก้ไข ไม่ใช่ การเอาความคิด ความเชื่อ ของตนเองเป็นใหญ่ หรือ ปรับ User Interface เพียงเพื่อความสวยงาม แต่ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งานใช้ได้ง่ายขึ้น
… อีกทั้ง มีการวางแผนในการ Transition จากเว็บเก่าไปสู่เว็บใหม่ อย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบ มีการเปิดให้ทดลองใช้ก่อน และนำสิ่งที่พบ ข้อเสนอแนะของผู้ใช้งานจริง ไปปรับปรุง ก่อนที่จะนำมา commercial launch ใช้งานจริงกับผู้ใช้ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ทีมงานยอมรับว่าอาจจะมีข้อผิดพลาด หรือสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ เกิดขึ้นได้ และเต็มใจที่จะทำการปรับปรุงเว็บให้ดีขึ้น ก่อนที่จะนำไปใช้กับผู้ใช้ทุกคนอย่างเป็นทางการ ไม่เลือกที่จะ “เปลี่ยน” ตามที่ตนเองเชื่อหรือต้องการ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ ปัญหาที่ผู้ใช้จะต้องประสบ ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางเดียวกับที่เราเห็นเว็บไซต์ระดับโลกอย่างเช่น Google หรือ Facebook (ตัวอย่างเดิม) ทำเช่นเดียวกัน จึงควรจะเรียกได้ว่า Pantip.com มีการวางแผนในการปรับเปลี่ยนระดับ Inter และ Professional มากๆ
อะไรทำให้คนเข้า Pantip.com?
คือคำถามที่คนจำนวนมากถาม และสงสัย คำตอบก็มีหลายประการ แต่ที่สำคัญที่สุดนั้น เห็นจะเป็นเรื่องของ “การตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี และสม่ำเสมอ” ความคาดหวังของผู้ใช้ที่กล่าวนั้น ได้แก่ (1) “ฉันมั่นใจว่า ถ้ามาโพสท์คำถามที่พันธิปแล้ว จะมีคนมาตอบให้ฉันแน่นอน“, (2) “ฉันมั่นใจว่า จะต้องเคยมีคนพูดถึงเรื่องนี้ และฉันจะหาข้อมูลนี้ได้เจอในพันธิปแน่นอน” และ (3) “ฉันมั่นใจว่า ถ้าฉันมาโพสท์แชร์เรื่องราวที่พันธิปแล้วจะต้องมีคนจำนวนมากมาพบ และอ่านแน่นอน” เพราะ “ฉันเชื่อว่า พันธิปเป็นเว็บที่คนส่วนใหญ่ จะใช้เป็นที่เข้ามาถาม และเข้ามาแชร์ มากที่สุด” นั่นเอง … จะเห็นได้ว่า Key to success นั้นอยู่ที่การตอบสนองต่อความคาดหวังข้างต้นนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ และไม่ทำให้ผู้ใช้ผิดหวัง จึงทำให้เกิด “การบอกต่อ” และ “รักษาฐานผู้ใช้เดิมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” อันส่งผลให้เกิด “Network effect” (ฐานผู้ใช้โตขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ผู้ใช้ต่างเห็นเพื่อนของตนใช้ จึงเลือกมาใช้ที่เดียวกัน และขยายผลออกไปเรื่อยๆ ในวงกว้าง) ที่ช่วยสนับสนุนให้ความเชื่อข้างต้นนั้นเป็นจริง
การจัดงานที่น่าประทับใจ การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
จะมีงานเปิดตัวเว็บไซต์งานไหน ที่ผู้เข้าร่วม สนใจกับฟีเจอร์ของเว็บไซต์อย่างงานนี้ ไม่ใช่เพราะฟีเจอร์นั้นแปลกใหม่น่าตื่นเต้น หากแต่เป็นเพราะผู้เข้าร่วมรู้สึกได้ด้วยตนเองว่า ผู้พัฒนาช่างเข้าใจในปัญหาและพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริงๆ จนอุทานกันว่า “นี่สิที่อยากให้มี”, “คิดได้ยังไง เจ๋ง จริงๆ” หรือ “สมกับที่เป็นพันธิปจริงๆ” เป็นต้น ตัวงานก็กระชับ ชัดเจน น่าประทับใจ และมีเซอร์ไพรส์ให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน เป็นการพิมพ์ภาพถ่ายที่เพิ่งถ่ายกันก่อนเข้างาน ใส่กรอบอย่างดี สวยงาม พร้อมให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน นำกลับไปเป็นที่ระลึก (ผลิตเร็วมาก เตรียมการมาเป็นอย่างดี) ถึงของจะต้นทุนไม่แพง แต่มีคุณค่าทางจิตใจสูง เป็น Rare product เป็น Limited product และยัง Personalisation อีกด้วย … ทั้งยังสร้างความประทับใจ นี่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อน และเข้าใจในความต้องการของผู้เข้าร่วมงานจริงๆ และยังประยุกต์ใช้การตลาดได้อย่างแยบยล ส่งผลให้เกิด Buzz (ประหลาดใจ ประทับใจ จนต้องบอกต่อ) ได้ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากจนเกินไป สะท้อนอีกว่า ทำการตลาดมีประสิทธิภาพ เพราะลงทุนน้อย แต่ได้ผลมาก
บัตรเข้างานฯ พวงกุญแจที่ระลึก และของเซอร์ไพรส์เป็นภาพถ่ายหน้างานอัดใส่กรอบที่ระลึกอย่างดี (ในภาพ ถ่ายคู่กับอาจารย์ป๋อง ชวรงค์ @chavarong บุคคลสำคัญของวงการสื่อไทยครับ)
The Best Community Website of Thailand
เมื่อรวม “ความสำเร็จของพันธิปกับจำนวนผู้ใช้ขนาดใหญ่” เข้ากับ “อุดมการณ์ที่ตั้งมั่นทำเพื่อสังคมส่วนรวม เพื่อคนทุกคน” และ “เทคโนโลยีที่ทันสมัย กับนักพัฒนาเว็บไซต์ที่มีฝีมือ” แล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนว่า Pantip.com สำหรับคนไทยแล้ว เปรียบเสมือนเว็บที่ มีฐานผู้ใช้มากอย่างเหนียวแน่นอย่าง Google, มีอุดมการณ์ ยืนหยัดสร้างประโยชน์ให้สังคม ไม่ใช่แสวงหาเพียงกำไรทางธุรกิจ อย่าง Wikipedia และ มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของผู้ใช้เป็นอย่างดี อย่าง Facebook รวมเข้าด้วยกัน จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสรุปว่า เว็บ Pantip.com กับเวลาที่พิสูจน์มาแล้วถึง 16 ปี และจะเดินหน้าต่อไปนั้น สมกับคำยกย่องว่าเป็น “ชุมชนออนไลน์ที่ดีที่สุดของคนไทย” จริงๆ ครับ
ไม่ว่าคุณจะเป็น ผู้ใช้พันธิปหน้าเก่า หรือหน้าใหม่ ก็ขอเชิญชวนให้ทดลองใช้ beta.pantip.com (ก่อน 31 ต.ค. นี้) นะครับ สมัครสมาชิกได้ที่ pantip.com เว็บเดิมครับ
มีโอกาสได้ถ่ายภาพคู่กับน้องแย้ พริตตี้ระดับจักรวาลของพันธิป ขอบคุณตากล้องมือฉมัง @jiraz ครับ 😉